center-left.png center-right.png
ผู้บริหาร

นายวันชัย เกิดมีโภชน์
ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
Krupey08@gmail.com
purple-btm-left.png purple-btm-right.png
โครงสร้างเขต2












purple-btm-left.png purple-btm-right.png
ผู้กำลังออนไลน์
bullet.gif บุคคลทั่วไปออนไลน์: 1

bullet.gif สมาชิกออนไลน์: 0

bullet.gif สมาชิกทั้งหมด: 110
bullet.gif สมาชิกใหม่: supervisor
blank.gif blank.gif
เข้าสู่ระบบ
ชื่อ

รหัสผ่าน



ไม่ได้เป็นสมาชิก?
คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน.

ลืมรหัสผ่าน?
ขอรหัสผ่าน ที่นี่.
blank.gif blank.gif
รอง ผอ.เขต 2

นางเกล็ดดาว สุวรรณบาตร์
081-707-0401
saouthai99@gmail.com


นายแสงชัย ธรรมนิยม
095-490-2507
S.thamniyom19@gmail.com


นายเสถียร อ่วมพรหม
095-307-3482
081-2330744
EMail:


นายวินัย พรมแจ่ม
081-887-8790
EMail:


นายวิทยา เอี้ยงหมี
061-541-9455
Wittaya.ut2@gmail.com
purple-btm-left.png purple-btm-right.png
ระบบงานออนไลน์



























purple-btm-left.png purple-btm-right.png
วิธีสมัครสมาชิกและโทรศัพท์เขต 2
เงื่อนไขการสมัครสมาชิกเว็บไซต์
1) ผู้สมัครต้องใช้ชื่อที่บ่งบอกตัวตนเป็นภาษาอังกฤษ
2) ผู้สมัครต้องระบุที่อยู่จริงเป็นภาษาไทย
3) ผู้สมัครโทรถึง 081-233-0744 เพื่ออนุมัติ
***เข้าระบบไม่ได้ติดต่อ
โทร. 081-233-0744

นางเกล็ดดาว สุวรรณบาตร์
รอง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
081-707-0401
saouthai99@gmail.com
นายแสงชัย ธรรมนิยม
รอง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
095-490-2507
S.thamniyom19@gmail.com
นายเสถียร อ่วมพรหม
รอง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
095-307-3482
นายวินัย พรมแจ่ม
รอง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
081-887-8790
นายวิทยา เอี้ยงหมี
รอง ผอ.สพป.อุทัยธานี เขต 2
Wittaya.ut2@gmail.com

นายปราโมทย์ ว่องวิกย์การ
ผอ.กลุ่มอำนวยการ
080-8408549
กลุ่มอำนวยการ
056-531-356
088-586-5502
Fax 056-531-171
นางดวงกมล บุญรักษา
ผอ.หน่วยตรวตสอบภายใน
086-441-6918
หน่วยตรวจสอบภายใน
088-586-5503
นายนิติ แกว่นกสิกร
ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา
088-282-8808
กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา
081-233-0744
utt2.go.th@gmail.com
นายธีรยุทธ ภูเขา
ผอ.กลุ่มนิเทศ ติดตามฯ
084-801-4099
tirayut168@yahoo.com
กลุ่มนิเทศฯ
081-233-0745
นางสาวรัญจวน แจ่มจันทร์
ผอ.กลุ่มบริหารงานการเงินฯ
086-934-0859
กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์
081-233-0741
ranjuan1@hotmail.com
นางวรลักษณ์ ปัทมเบญจกุล
ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน
080-1175845
purple-btm-left.png purple-btm-right.png
เมนู
blank.gif blank.gif
เว็บลิ้งก์

















purple-btm-left.png purple-btm-right.png
ช่องทางเรื่องร้องเรียน

purple-btm-left.png purple-btm-right.png
เว็บข่าวสาร












purple-btm-left.png purple-btm-right.png
Smart ICT









purple-btm-left.png purple-btm-right.png
ดูกระทู้
 พิมพ์กระทู้
คสช.ไฟเขียวเงินอุดหนุนอปท. ฮึ่ม! ห้ามเอาไปดูงานต่างประเทศ
admin
วันที่ 26 สิงหาคม ที่หอประชุมกองทัพบก สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต แถลงข่าวผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 12/2557 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุม




น.ส.ปถมาภรณ์กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมคสช. ได้เห็นชอบการจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 8,500 ล้านบาท ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่ง แห่งละ 1 ล้านบาท และส่วนที่ 2ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือ ก็จะจัดสรรให้กับอปท.ตามสัดส่วนที่อปท.แต่ละแห่งได้รับการ จัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง ในปีงบประมาณ 2557 สำหรับเงินที่อุดหนุนไปนั้น อปท.จะนำไปใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ เช่น โครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีความมั่นคงถาวร พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างการส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น และเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของท้องถิ่นมีความเจริญเติบโต ทั้งนี้ในแง่ของการปฏิบัตินั้น ห้ามมิให้อปท. นำเงินอุดหนุนทั่วไปในครั้งนี้ นำไปใช้จ่ายในการศึกษาดูงานของบุคลากรท้องถิ่น

น.ส.ปถมาภรณ์ กล่าวต่อว่า คสช.ได้อนุมัติหลักการร่างกฎหมายซึ่งเป็นกฎหมายเพื่อใช้ในการดูแลและแก้ไขปัญหาพระพุทธศาสนา เพื่อรอส่งให้ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาต่อไป โดยเป็นร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา สาระสำคัญคือการกำหนดให้รัฐอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาในแนวทางตามที่กำหนด อย่างเช่น สนับสนุนการบริหารการปกครองคณะสงฆ์ การศาสนศึกษา การเผยแพร่พุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนั้น ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และคณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการอุปถัมภป์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาขึ้นในขึ้นในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กำหนดให้มีกองทุนอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และที่น่าสนใจนั้น ในร่างกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดบทกำหนดโทษสำหรับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา อย่างเช่น การเสพเมถุน ต้องจำคุก 1-7 ปี รวมถึงผู้ร่วมกระทำผิด หรือมีการสนับสนุนในโทษดังกล่าวก็ให้ระวางโทษเช่นเดียวกัน

น.ส.ปถมาภรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมคสช.ได้เห็นชอบการจัดทำความตกลงเป็นประเทศเจ้าภาพการจัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพื่อหารือแนวทางและวิธีการในการป้องกันสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีและลงโทษการฆ่าผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอันเนื่องมาจากความเป็นเพศหญิงซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่11-13 พฤศจิกายนนี้ ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการตกลงดังกล่าว จะจัดทำขึ้นระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (ยูเอ็นโอดีซี) โดยการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายด้านการต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีและเด็กผู้หญิงในเวทีสหประชาชาติโดยการนำของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสำนักงานสหประชาชาติณ กรุงเวียนนา ซึ่งท่านได้ทรงผลักดันเรื่องดังกล่าว จนได้รับการรับรองในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อปี 2556 ซึ่งการจัดทำการตกลงดังกล่าวทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้แจ้งต่อที่ประชุมคสช.ไม่มีข้อขัดข้องในสารัตถะโดยรวมของร่างข้อตกลงดังกล่าวโดยที่การตกลงนั้นมีลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเสนอคสช.พิจารณาเห็นชอบในการจัดทำความตกลงก่อนดำเนินการต่อไปอย่างไรก็ตามข้อตกลงดังกล่าวไม่มีสาระสำคัญที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือจะต้องออกพระราชบัญญัติหรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)

น.ส.ปถมาภรณ์กล่าวว่า ถัดมา คสช.ได้เห็นชอบการลงนามในแนวทางปฏิบัติว่าด้วยความร่วมมือที่เกี่ยวกับการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานพลเรือนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกระหว่างประเทศไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศซึ่งอนุมัติให้อธิบดีกรมการบินพลเรือนเป็นผู้ลงนามของฝ่ายไทยและหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยก็สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกซึ่งที่ประชุมคสช.เห็นว่ากรณีที่ประเทศไทยเข้าร่วมแนวทางปฏิบัติดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลากรด้านการสอบสวนด้านอุบัติเหตุและอุบัติการณ์อากาศยานพลเรือนของประเทศไทยให้มีทักษะและมีความรู้ในวิชาชีพเพิ่มมากขึ้นรวมถึงเปิดโอกาสให้ได้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์เครื่องมือและบุคลากรด้านการสอบสวนของประเทศที่เข้าร่วมอีกด้วย

นอกจากนี้ คสช.ยังได้ให้ความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อรายการแบบรูปรายการและสถานที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานลูกเสือแห่งชาติอาคารเฉลิมพระเกียรติ84 พรรษา ประมุขแห่งคณะลูกเสือแห่งชาติ สาระสำคัญคือการย้ายสถานที่ก่อสร้างจากที่กรุงเทพมหานคร ไปอยู่ที่จังหวัดชลบุรี บริเวณด้านหลังพระบรมราชานุเสาวรีย์รัชกาลที่ 6 หน้าค่ายวชิราวุธ อำเภอศรีราชา
 
ไปยังฟอรั่ม:
purple-btm-left.png purple-btm-right.png
centerb-left.png centerb-right.png